เทคนิคการสมัครงาน: วิธีการเขียนคุณสมบัติสำหรับResume

  • Call Center : 02-187-0187 , 08-6700-4000

เทคนิคการสมัครงาน: วิธีการเขียนคุณสมบัติสำหรับResume

Posted:

           ประวัติการทำงานหรือ Resume ส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องมีการระบุรายการการประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพที่คุณได้รับ ในบางกรณีนั้นถึงแม้ว่าคุณจะอาจจะเน้นทางด้านทักษะที่ดีกว่าและความสำเร็จที่ได้รับมากกว่าประวัติทางด้านอื่นๆ ซึ่งการเขียนประวัติการสมัครงานนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องยาก โดยการใช้เทคนิคเหล่านี้
  1. ก่อนอื่นคุณต้องพิจารณาว่า การใส่คุณสมบัติที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้รับการเรียกเข้าสัมภาษณ์และได้รับเลือกให้ทำงาน ดังนั้นคุณสมบัติที่จะกล่าวถึงนี้เป็นการมุ่งเน้นถึงทักษะและความสามารถและไม่เน้นเหตุการณ์มากจนเกินไป ซึ่งการพิจารณาเหล่านี้จะมีผลเป็นอย่างมากในสถานการณ์ดังต่อไปนี้:
    • คุณกำลังคิดที่จะเปลี่ยนอาชีพและคิดว่าทักษะที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังรวมถึงความสำเร็จอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานที่ทำในปัจจุบัน เช่น ประสบการณ์เก่าๆ, การเป็นอาสาสมัคร หรือการพัฒนาทักษะที่นอกเหนือจากเวลางาน
    • คุณเคยมีปัญหาหรือการหยุดชะงักในการทำงานของคุณ หรือเกี่ยวกับอาชีพของคุณเมื่อเร็วๆนี้หรือไม่
    • คุณจะต้องปรับปรุงประวัติการทำงานของคุณให้เกี่ยวเนื่องกับงานที่คุณกำลังมองหาอยู่
  2. ขั้นตอนระดมความคิด: ลิสต์รายการเกี่ยวกับทักษะทั้งหมดที่คุณมี และความสำเร็จที่เคยได้รับ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่ามันจะถูกต้องทั้งหมด เพียงแค่จัดเรียงและสามารถแก้ไขในภายหลังได้ อย่าลืมจดสิ่งเหล่านี้ลงไปในรายการของคุณด้วยเพราะมันจะช่วยให้คุณคิดรายละเอียดเพิ่มเติมได้มากขึ้น
    • ประสบการณ์ในการเป็นอาสาสมัคร
    • ประสบการณ์ในการทำงานในประเทศอื่นๆ, อุตสาหกรรม หรืองานด้านอื่นๆ
    • การศึกษา, ประวัติการฝึกอบรมและฝึกงาน
    • ทักษะที่จำเป็น เช่น คอมพิวเตอร์ และ ทักษะทางด้านภาษา
    • ชมรม และ การเข้ากับสังคมหรือชุมชน
    • งานอดิเรก, งานฝีมือ และ งาน DIY ที่คุณให้ความสนใจ
  3. การจัดเรียงข้อมูลสำหรับการสมัครงาน วิธีการจัดเรียงนั้นคุณต้องคิดก่อนว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับตัวคุณ? หรือ อะไรคือจุดขายที่ดีที่สุดใน Resume ของคุณ? คุณเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์หรือไม่? คุณระดับการศึกษาอะไรบ้างที่คิดว่าคุณภาคภูมิใจ? หรือคุณมีประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับความต้องการของงานที่คุณกำลังสมัคร ให้นำสิ่งที่เป็นจุดแข็งของคุณมาไว้ก่อน หรืออาจจะแบ่งประสบการณ์ของคุณเป็นกลุ่มย่อยๆ เช่น ทักษะสำหรับบุคคลทั่วไป และ ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม
  4. จัดข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ ไม่ใช่จัดตามระยะเวลา เลือกตามประเภทของงานแต่ละงาน, หรือจัดตามประสบการณ์ในแต่ละด้าน หรือทักษะที่คุณต้องการนำเสนอ เช่น ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์, การศึกษา และประสบการณ์จะเป็นหมวดหมู่ที่เห็นได้ชัด ดังนั้นเมื่อเป็นในส่วนของประสบการณ์ คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยประโยคที่น่าสนใจ โดยจะต้องมีเนื้อหาและประโยคที่สัมพันธ์กัน           หากคุณมุ่งเน้นไปที่ทักษะการแก้ไขปัญหา และนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญารวมไปถึงผลสำเร็จที่คุณได้รับจากการแก้ไขปัญหานั้น ปกติแล้วการเขียนประวัติการทำงานหรือ Resume เพื่อการสมัครงานนั้นไม่ได้มีกฏที่ตายตัว
  5. เพิ่มข้อสรุปสั้นๆ ซึ่งไม่ใช่ในส่วนของวัตถุประสงค์ หรือ ความต้องการจะเข้าทำงาน เพียงแต่ย่อข้อดีทั้งหมดเท่าที่คุณจะเขียนได้ เหตุผลคือ มันเป็นจะตัวช่วย ที่จะทำให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลหรือบริษัทจัดหางานที่กำลังยุ่งกับงาน ตัดสินใจได้ว่า Resume สำหรับการสมัครงานของคุณนั้นน่าสนใจ และสมควรที่จะสละเวลาอ่านอย่างน้อยก็ประมาณ 1-2 นาที
  6. เพิ่มเหตุการณ์ที่น่าสนใจสั้นๆในประวัติการทำงานของคุณในส่วนท้าย อาจจะเพียงแค่ 1 บรรทัดในการบรรยาย ซึ่งรวมถึงบริษัท, หัวข้อและปีที่คุณทำงานอยู่ที่นั้น
  7. เทคนิคเพิ่มเติม
    • อ่านลักษณะงานที่คุณสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่คุณต้องการจะสมัคร, และสอดคล้องกับประวัติการทำงานของคุณ
    • ถ้าลองลิสต์รายการดูแล้ว คุณมีรายการที่เยอะจนเกินไป ลองเลือกที่สำคัญที่สุดเพื่อใช้ประวัติการทำงานตัวหลัก แล้วรายการที่เหลือก็สามารถที่จะนำไปลงได้ตามงานที่คุณกำลังหาเพิ่มเติม
    • ที่สำคัญที่สุดจะต้องไม่ลืม คือ ใช้จุดแข็งของคุณเป็นตัวขาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการศึกษา ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ หรือประสบการณ์บางอย่าง
    • ให้เพื่อนหรือคนใกล้เคียงอ่านประวัติการทำงานของคุณและช่วยแนะนำเพิ่มเติม สองหัวดีกว่าหัวเดียวดังนั้นจากมุมมองของผู้อื่นเมื่ออ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจตรงกับสิ่งที่คุณต้องการไว้
    • คุณต้องเตรียมข้อมูลเกี่ยวประวัติการทำงานของคุณหากได้รับเรียกสัมภาษณ์ Resume อาจจะเป็นใบเบิกทางสำหรับการสมัครงานที่มีประสิทธิภาพ แต่การสัมภาษณ์จะเป็นตัวชี้วัดถึงมุมมอง ทัศนคติไปจนถึงบุคลิกภาพที่บริษัทต่างๆจะมีหลักงานและเหตุผลในการับเข้าทำงานที่แตกต่างกัน